10 อย่างที่เราควรคิด เมื่อชีวิตล่มจม

[Ailie662]

1.This too shall pass สักครู่มันก็จะผ่านไป

ถ้าเราเป็นพุทธศาสนิกชน พวกเราก็คงจะรู้จักกับคำกล่าวสอนที่ว่า ทุกอย่ าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วหลังจากนั้นก็ดับไป

ไม่ว่าความจะเป็นความสุข หรือ ความทุกข์ทรมาน มันก็จะไม่อยู่กับพวกเราตลอดกาล ประเดี๋ยวมันก็จะล่วงเลยไป เพียงเข้าใจในเรื่องธรรมดาข้อนี้


2.Somethings are going right มันก็มีบางเรื่องที่ดีบ้างหละ


ขณะที่พวกเราจมอยู่กับความทุกข์ พวกเราก็ชอบจุดโฟกัสอยู่กับปัญหา จนกระทั่งลืมดูถึงสิ่งดีๆมากมายที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน

ให้ทดลองใช้วิธีการ gratitude journey ดูนะคะ ลองเขียนขอบคุณมาก​หรือเขียนสิ่งที่ดีในแต่ละวันดูแล้วพวกเราจะพบว่า

อันที่จริงแล้ว ในชีวิตพวกเราก็มีเรื่องมีราวดีๆเกิดขึ้นตั้งล้นหลาม กล้วยๆเลยเป็น พวกเราตื่นนอนขึ้นมาอีกหนึ่งวันด้วยสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงบริบูรณ์

พร้อมที่จะต่อสู้กับปัญหา และสร้างผลดีให้กับโลกใบนี้ได้อีกตั้งหนึ่งวัน เป็นต้น

3.I have some control มีเรื่องมีราวที่ฉันสามารถควบคุมได้

เมื่อกำเนิดปัญหาสังกัดเรา มันก็จะดูอย่างกับว่าพวกเราจัดแจงอะไรกับมันไม่ได้สักอย่ าง แม้กระนั้นอันที่จริงแล้วสิ่งที่พวกเราจัดการได้ ก็คือตัวเรา


ความคิดเรา ขั้นตอนการเลือกสนองตอบของเรา ต้องมีสติสัมปชัญญะ และใช้ปัญญาสำหรับเพื่อการแก้ไขปัญหา


ที่สำคัญจดจำไว้ว่า ความสุขหรือความทุกข์ทรมาน เกิดที่ใจของเราเอง ไม่ใช่บุคคลอื่นเลย

4.I can ask for helpฉันวิงวอนได้

ไม่แปลกเลยถ้าเกิดพวกเราจะขอร้องเมื่อเราอยากได้มัน เมื่อก่อนอื่นพวกเราควรจะพย าย ามแก้ปัญหาด้วยตัวเราเองเสียก่อน แต่

เมื่อมันเหนือบ่ากว่าแรง การเรียกร้องจากคนอื่นๆก็ไม่ใช่เรื่องผิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนภายในครอบครัวของเรา ผู้ที่รักเรา พวกเขาพร้อมจะช่วยเหลือเราเสมอ คุณไม่ได้อยู่เพียงลำพังบนโลกใบนี้นะคะ

5.Much of this won't matter in a few years หลายเรื่องที่เกิดขึ้น ในอีกไม่กี่ปีด้านหน้ามันก็จะไม่มีความจำเป็นอะไรอีกต่อไป

ระลึกถึงตอนเราเป็นเด็กสิขา ปัญหาอันใหญ่หลวงของเราก็คือ การลืมสมุดการบ้าน

พวกเรารู้สึกเครียดเหมือนโลกจะถล่มทลายมากๆแต่พอเพียงเราโตขึ้น เรามองย้อนกลับไป

เราก็หัวเราะให้หัวข้อนั้นๆได้ ปัญหาทุกปัญหาผ่านมาเพื่อทำให้พวกเรา กล้าแกร่ง แล้วก็เติบโตขึ้น

เมื่อคุณผ่านมันไปได้ ประเด็นนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เปรียบเหมือนเรื่องสมุดการบ้านในวัยเด็กของคุณเพียงเท่านั้น

6.I can handle this ฉันจัดแจงมันได้

ไม่มีใครจะมั่นใจในตัวเรา ถ้าเกิดเราไม่แน่ใจในตัวเราเองก่อน ไม่มีผู้ใดจะช่วยพวกเราได้ตลอด ถ้าหากเราไม่ช่วยเหลือตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดปัญหา

อะไรขึ้นในชีวิต ต้องมีสติ แล้วให้กำลังใจกับตนเองว่า ฉันจะจัดแจงมันได้


แม้ว่าเวลานี้พวกเราจะรู้สึกแย่เพียงแต่ไหน ก็ต้องจดจำไว้ว่า เราจะผ่านมันไปได้


7.Something good will come out of this เรื่องดีๆจะมีเหตุมาจากเหตุนี้

เหรียญยังมีสองด้าน ราวกับๆกับทุกเรื่องราวในชีวิตของเราที่มีนานัปการมองให้เลือกดูในวันที่พวกเราประสบพบเจอปัญหา

ดังเช่น คนที่พวกเรารักและก็ทุ่มเททุกๆสิ่งทุกๆอย่างทุกอย่ างให้ กลับมาทิ้งเราไป โน่นบางทีอาจเป็นบทเรียนรวมทั้งบททดลองที่สำคัญ

ที่ทำให้พวกเรากลับมารู้จักรักตนเอง แล้วก็เห็นคุณค่าของตนเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มทำอะไรดีๆให้ชีวิต แทนที่จะเสียเวล่ำเวลาไปกับความทุกข์ใจ

ราวกับก่อนหน้านี้ และผลที่เกิดก็คือ ชีวิตพวกเราดีขึ้น ปรับปรุงไปจากที่เราได้คาดหวังไว้ ด้วยฝีมือของเราเอง เป็นต้น จงมองหาจุดเด่นให้เจอ

8.I can accept what's out of my control ฉันสามารถสารภาพในสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของฉันได้

ในชีวิตจริงมีสาเหตุมากที่เราไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมได้ ยิ่งพวกเราอย ากควบคุมมันเยอะแค่ไหน อย ากไปบังคับมันเยอะแค่ไหน เรายิ่งมีความทุกข์

การทำดวงใจสารภาพความเป็นจริงข้อนี้ให้ได้ และปล่อยวาง เอากำลังกาย กำลังใจที่มีไปทุ่มเทให้กับสิ่งที่พวกเราควบคุมได้ นั่นคือ ตัวเราเองดีกว่า

9.I have overcome past difficulties ฉันเคยผ่านเรื่องย ากๆมาแล้วในชีวิต

บางโอกาสการย้อนไปดูความสำเร็จก่อนหน้าที่ผ่านมาก็ช่วยเราได้ ความตั้งใจ ความพย าย าม

หรือเรื่องราวย ากลำบากก่อนหน้าที่ผ่านมาแล้วในสมัยก่อน เรายังเคยผ่านมันมาได้

และนี่ก็เป็นเพียงแค่อีกหนึ่งบททดลองที่เราก็จะผ่านมันไปได้เช่นกัน

10.I need to take care of myself ฉันต้องดูแลตัวเอง

ไม่มีผู้ใดจะรักเราได้มากพอๆกับพวกเรารักตัวเองจ้ะ ด้วยเหตุผลดังกล่าว จงดูแลสุขภาพทางกาย สุขภาพจิตใจของเราให้ดี

ในชีวิตนี้มีเรื่องราวอีกเยอะแยะที่รอคอยพวกเราอยู่ อย่ าหยุดตนเอง แค่เพียงปัญหาชั่วคราวในวันนี้ สู้ต่อไปนะคะ
เตือนสติ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13250/
คำค้นหา : ข้อคิด