การ เนรคุณคน ไม่เคยทำให้ผู้ใดกันแน่ได้ดิบได้ดี

[Beer625]

คนที่เข้ามาหาคุณนั้น มีหลายแบบ เราจงรู้จักแยกให้ออก

บ้างก็ความเป็นจริง บ้างก็แค่ละคร ให้ดูน่าสงส าร

บางโอกาสคุณยื่นมือเข้าไปช่วย แทนที่จะได้รับสิ่งที่ดีคืนมา เปลี่ยนเป็นความซ ว ย

แต่ว่าคุณเชื่อเหอะ หากเขาไม่รู้บุญคุณ ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ไม่รุ่งโรจน์หรอก

ชีวิตเหมือนจะดีแต่ก็ไม่ ดี ราวกับจะราบรื่นแม้กระนั้นก็ไม่ราบรื่น


ล้ ม ลุกล้มลุกคลุกคลานอยู่ที่เดิม ท้ายที่สุดก็พั ง หมดรูป

โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไร ทำสิ่งใด ไม่ต้องทวงบุญคุณ

ดีที่สุดเป็น เลิกคบ ออกไปให้ไกลจากชีวิตเขา

คนเราจะอยู่ตามลำพังตามลำพั ง มิได้ จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยกัน

อีกทั้งในด้านพลังกาย กำลังความนึกคิด และก็อื่นๆ

หากได้รับอุปถัมภ์จากใคร ก็เรียกผู้นั้นว่า ผู้มีพระคุณหรือผู้มีบุญคุณณ

คนไหนกันแน่ช่วยเหลือให้อุปถัมภ์ค้ำชูแก่เรา ก็ไม่พึงลืมพระคุณของคนนั้น


ผู้ไม่ลืมเลือนชุบเลี้ยงที่คนอื่นๆมีแก่ตน ย่อมเป็นผู้เจริญด้วย ลาภขั้นเชิดชู ไมตรี


แม้กระนั้นคนใดไม่สำนึกบุญคุณของคนอื่นๆ หรือดูถูกเหยียดหยามพระคุณของผู้มีชุบเลี้ยงของตน

ผู้นั้นจะเป็นผู้ ต่ำ ต้ อ ย ทำความดีไม่ขึ้น เป็นคน อ า ภั พ

แม้จะพย าย ามขวนขวายยังไง ก็มักจะ ล้ ม เ ห ล ว หมดรูปเหมือนเดิม

การลบหลู่พระคุณของผู้มีบุญคุณณ เขาเรียกว่า การ เ น รคุณ

การ เ น ร คุณเป็นตัว ก า ล กิ ณี จะรอดึงให้คนเ น ร ปะทุในต ก ต่ำ

ไม่มีช่องทาง ที่จะสุขสบายได้ในชีวิตได้เลย

เพราะเหตุว่าปราศจากความกตัญญูรู้คุณ ปราศจากความเป็นผู้รู้คุณคน

ต้องคิดให้ได้เถอะ เมื่อคิดได้แล้ว เปลี่ยนนิสัยตัวเอง ได้ชดใช้ตามควรแล้ว

ชีวิตก็จะเบาๆดีขึ้นเรื่อยตามต้นเหตุต่างๆที่ควรเป็น

กตัญญูกตเวทีคนแล้วตอบแทน นี่แหละ เครื่องหมายของคนดี
เนรคุณ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13590/