8 สิ่งที่คนทำงานประจำ จำต้องพบ

[Fern751]

1. อย่าเชื่อมั่นในตัวเองเหลือเกินในโลกออนไลน์

หลายคนมั่นใจว่าโลกออนไลน์เป็นพื้นที่ส่วนตัว จะโพสต์อะไรมันก็สิทธิ์ของเรา แต่ว่ารู้รึเปล่าว่า HR สมัยปัจจุบันนอกเหนือจากการที่จะดู resume เราแล้ว ยังดูเฟสของพวกเราด้วย เพื่อนฝูงเราที่เป็น HR รับรองมาว่าหน้าเฟสบอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราได้มากกว่า

Resume เป็นสิบเท่า สิ่งที่เราโพสลงบนโลกอินเตอร์เน็ตของพวกเรานั้นมีผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อเราเป็นพนักงานประจำเต็มกำลัง เรื่องพวกนี้ยิ่งต้องระวัง หรือ


ถ้าเกิดอย า กมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆแนะนำให้แยกเฟสสถานที่สำหรับทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาธาราที่พด้วย ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่ทำงาน เกลีย ดคนนั้น เบื่องาน หัวหน้างั่ง ห้ามโพสต์เด็ดขาด โพสต์ปุ้บมีคนแคปไปฟ้องแน่ๆ

2. ต้องเป็น "ผู้รับจ้างมือโปร"

ถ้าเกิดอย า กเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไปถึงเป้าหมายและเป็นสุข จงเป็น "ผู้รับจ้างมือโปร" ให้ได้ ลูกจ้างมืออาชีพก็คือคนที่ใส่ใจได้ว่า "พวกเราถูกจ้างมาด้วยค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง"

นั่นนับได้ว่าบริษัทเค้าต้องการอะไรบางอย่างจากเราแลกเปลี่ยนกับค่าแรงนั้นๆเราจำเป็นต้องทราบว่าบริษัทว่าจ้างเรามาทำอะไร แล้วก็ทำมันให้ดียิ่งกว่าที่บริษัทมุ่งมาดถ้าหากต้องการความเจริญในหน้าที่

หากงานที่ทำอยู่มีความคิดว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่ควรอดทนทำไป ควรจะหางานที่เราทำแล้วเรามีความสุขแล้วก็ทำได้ดีเพื่อดึงศักยภาพของตัวเองออกมาให้มากที่สุด


นอกจากจะทำให้พวกเราเติบโตในหน่วยงานแล้ว ยังมีผลให้พวกเราพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเวลาและไม่เบื่อด้วย แต่ว่าก็ไม่ได้จะเชียร์ให้เป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะ ทรหดอดทนทำไปจนถึงจุดหนึ่ง

เราจะรู้เองว่าควรจะไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ใช่ให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าคนอื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกจำนวนกี่ครั้งก็ได้ ถ้าหากสุดท้ายพวกเราเจอสายอาชีพที่เรารักและก็อย า กทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมากมาย

และ ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน "เราถูกจ้างมาด้วยค่าแรงงานจำนวนหนึ่ง" อย่าทำงานมากเกินกว่าค่าจ้างจนถึงเกินไป ทุ่มเทได้ แต่ว่าต้องมีผลสรุปที่ดีตามออกมาด้วย ยกตัวอย่างเช่นได้ปรับค่าตอบแทนรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับพ่อแม่ พี่น้องๆบ้ า ง หันกลับไปมองดูด้านหลังบ้ า งว่าผู้ที่เป็นบันไดให้พวกเรามายืนจุดนี้ ช่วงนี้เค้าเป็นอย่างไรกันบ้ า งนะ? อย่าลืมว่าพ่อแม่แก่ลงทุกวี่วัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าหากเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ลำบากหรอก แลกเปลี่ยนกับความสำราญของบิดามารดา

3. มีแฟนในสถานที่ทำงานได้แต่จะต้องสารภาพผลปรากฏว่า

ถ้าเกิดคุณเป็นคนที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออก เสนอแนะว่าอย่ามีคู่รักในสถานที่สำหรับทำงาน ไม่ได้กล่าวว่าไม่ควรคบคนในที่ทำงาน แต่หากคบและก็ต้องสารภาพผลที่ตามมาให้ได้ อาจต้องเจอเหตุการณ์เช่น

เถียงกับแฟนมาแล้วจะต้องมาคุยงานกัน มีคนใดกันแน่บ้ า งแยกประเภทเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากงานได้ 100% บ้ า ง ถ้าเกิดไม่ต้องเจอหน้ากันทุกเมื่อเชื่อวันหรือทำงานสนิทสนมก็ยังพอเพียงโอเค แม้กระนั้นถ้าเกิดทีมเดียวกันบางทีอาจจะเมื่อยล้าหน่อย ทะเลาะกันขึ้นมาเมื่อไหร่รู้ทีค่อนบริษัท

4. หาคนที่เป็นมากกว่าเพื่อนผู้ร่วมการทำงานให้เจอ

ไม่เหมือนกันระหว่าง "เพื่อนพ้อง" กับ "เพื่อนร่วมงาน" เป็นยังไง...? ที่เค้ากล่าวว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนฝูงย า กก็คงจะจริง ยุคประถม การหาสหายใหม่ไม่ย า กเท่าสมัยมัธยม และ การหาเพื่อนฝูงในยุคมัธยมก็ไม่อย า กเท่าตอนเข้ามหาวิทย า ลัย มันหมายความว่ายิ่งเราโตขึ้นมากแค่ไหน พวกเราจะหาเพื่อนฝูงย า กขึ้นเท่านั้น และไม่จะต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่จริงหัวใจคนนึงในที่ทำงานมันย า กเพียงใด นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องผล

ทดแทน ทั้งตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของคนเราเงินเดือนอย่างเราคือไปทำงาน มิได้ไปทำกิจกรรมสานสโมสรหาเพื่อนฝูง ด้วยเหตุนี้วันๆเราจึงจะพบแค่สหายร่วมกลุ่ม ซึ่งจำนวนมากแล้วก็เป็นการคุยกันแค่เรื่องงานแค่นั้น การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจแบบงี้ เรามีความคิดว่ามันคือผลกำไรชีวิต


พย า ย า มหาคนกลุ่มนี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย า กไปทำงานมากขึ้น ให้เราทดลองถามตนเองว่า "ถ้าหากเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย า กนัดคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม...?" ถ้าหากคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนจริงๆในสถานที่ทำงานแล้วววว

5. พึงพอใจแม้กระนั้นอย่าเอาใจใส่ทางวิ่งบุคคลอื่น โฟกัสที่ทางวิ่งของเรา

เมื่อดำเนินงานไปนานๆเราบางทีอาจมองเห็นเพื่อนฝูงๆในสถานที่สำหรับทำงานของเราผู้คนจำนวนมากเริ่ม ออกไปเรียนต่อ สร้างครอบครัว บางบุคคลเปลี่ยนงานไปงานที่เงินเดือนสูงสุดๆบางคนเริ่มธุรกิจของตน

ไอคนนั้นคนนี้ได้ดีแล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ จงจำไว้ว่าอย่าเอาจังหวะชีวิตของพวกเราไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่นเด็ดขาด จุดโฟกัสที่ลู่วิ่งของเรา ทราบดีว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร

ทราบว่าที่หมายพวกเราอยากอะไร รู้ดีว่าวันนี้พวกเราประพฤติดีกว่าเมื่อวานนี้แล้วหรือยัง ก็เพียงพอแล้ว แอบดูลู่วิ่งผู้อื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงผลักดันตนเองให้พย า ย า มเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าอย่าเอามาเปรียบเทียบจนกระทั่งทำให้ตัวเองทุกข์

6. เล่นการเมืองกับทุกคน

เล่นการเมืองกับทุกคนไม่ได้มีความหมายว่าให้เราไม่จริงใจกับคนไหนกัน แม้กระนั้นการเล่นการเมืองกับทุกคนคือ.. การที่พวกเราดูว่าคนนี้เป็นคนยังไง จะเข้ากับเขาได้เช่นไร มิได้กล่าวว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือฝืนตนเองมากมายๆนะ แม้กระนั้นแต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความชอบ โตมาในสังคมที่ต่างกัน การที่เราดูแล้วทราบว่าจะ "อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร"

ได้ยังไงจะทำให้เราได้เปรียบมากๆเว้นแต่วางตัวง่ายแล้ว เราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางบุคคลที่ดูแล้วผิดจริตกัน การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักสวัสดีตามมารย า ท ไม่จำเป็นที่จะต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่เคยรู้หรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงเราเข้าไปทำงานกับคนไหนกันแน่ ฉะนั้น อย่าสร้างศั ต รู เด็ดขาด...!!!

7. โดนด่าวันนี้ ดีมากยิ่งกว่าโดนดุตอนอายุ 50

ด้วยความที่อายุพวกเรายังน้อยนี่เป็นข้อได้เปรียบสุด เพราะว่า อายุยังน้อยความคาดหมายจากคนที่อยู่รอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ทำอะไรไม่ถูกก็มักมีคนยกโทษเสมอ ถึงพวกเราจะรู้สึกบีบคั้นในการดำเนินการสุดๆแต่ว่าเชื่อเถอะ พวกเราล้มเหลววันนี้ ดีมากกว่าพวกเราไปล้มตอนอายุ 50 ถึงวันนั้นจะไม่มีคนคุ้มหัวเราด้วย

8. เราไม่ได้เกิดมาเพื่อปฏิบัติงานอย่างเดียว

พวกเรามิได้ปฏิบัติงานแล้วแฮปปี้ทุกวี่วัน หลายหนที่เรากลับไปบ้ า นแล้วอย า กจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แม้กระนั้นถ้าเกิดพวกเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต อย่างเช่น คิดเงินซื้ อ บ้ า น ซื้ อ รถยนต์ ท่องเที่ยวรอบโลก การเปลี่ยนมาทำเรื่องที่เราชอบจะมีผลให้ยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้น และเพิ่มความมั่นใจและความเชื่อมั่น เพราะการเฟลจากที่ดำเนินงานโดยมากมักทำให้เราเสียกำลังใจ

แล้วก็ขาดความเชื่อมั่นในตนเองในตัวเอง ส่วนตัวเรามันส่งผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน แล้วก็อีกเยอะแยะ ยกตัวอย่าง เรามีเพื่อนพ้องคนนึงชอบตัดเย็บเสื้อผ้ามาก เป็นจริงเป็นจังขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร์อาทิตย์ ในขณะนี้ดำเนินงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย ตั้งมั่นดำเนินการเป็นเรื่องที่ดี แม้กระนั้นหาอย่างอื่นทำบ้ า งชีวิตจะได้ไม่เฉาคาที่ปฏิบัติงาน
ประจำพนักงาน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13496/