• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นเพราะอะไร ? รักษาได้ยังไง ?

Started by Cindy700, January 05, 2023, 12:35:50 PM

Previous topic - Next topic

Cindy700

ตับมีปัญหา จะต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกรอบ เนื่องจากถ้าเกิดปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และโรคมะเร็งตับได้เช่นกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อ กล่าวย้ำเตือนถึงความสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าหากคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และก็เมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะทราบได้เช่นไรว่าตับกำลังประสบปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? รวมทั้งควรดูแลบำรุงยังไง..? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเหมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งยังโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด ฯลฯ) แล้วก็ยังเป็นโรงงานแปรรูป (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะใช้ประโยชน์เป็นพลังงาน) ถ้าหากร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็ราวกับตายทั้งเป็น คำพูดที่ว่าตับเป็นเหมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการผลิต
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสุขภาพร่างกาย ซ่อมบำรุงส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็งตัว อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด ดังเช่นว่า อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารและเกลือแร่เอาไว้ในเส้นเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยเผาผลาญไขมัน รวมทั้งมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารประเภทไขมัน แล้วก็ถึงสารตั้งต้นของฮอร์โมนบางชนิด
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินและก็เกลือแร่บางประเภทที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยดัดแปลง ของกินแล้วก็ยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองพิษในเลือด
- ขับของเสียออกมาจากร่างกายในรูปแบบฉี่ หรือถ่ายมาพร้อมกับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องเผชิญกับปัญหาเสื่อมโทรมสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งยังจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่เกิดจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่เกิด แต่หลักๆที่ทำให้คนส่วนมากมีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมทำร้ายตับเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบกินอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความเครียด
4.ชอบนอนดึกดื่น ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมเยอะเกินไป
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารเช้า
9.ชอบรับประทานอาหารดิบๆสุกๆ
10.ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลพวกนี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราบางครั้งก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานหนัก 24 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในทุกๆวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองพิจารณาอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา ตัวอย่างเช่น มีอาการง่าย อ่อนล้า , มีปัญหาในการนอนหลับ , อาการท้องอืดเป็นประจำ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการของกินน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต เป็นต้นถ้าเกิดคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวข้างต้นแล้วยังปล่อยปละละเลยกลับมาดูแลตับอีก.. รู้ตัวอีกทีความน่ากลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ในขั้นร้ายแรงอย่างตอนเป็นโรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลและรักษาตับพื้นฐาน
"ตับ" เป็นอวัยวะสามารถฟื้นฟูตนเองได้ โดยทางทฤษฎีถ้าเกิดเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ด้วยเหตุนี้เมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ว่าไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเฉยเมยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะถ้าเกิดตับอักเสบบ่อยๆกระทั่งเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้นตัว ยิ่งมะเร็งยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดเป็น การเอาใจใส่บำรุงตับเพื่อป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในตอนหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรเริ่มเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงเพิ่มมากขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดปริมาณไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
เลี่ยงของว่าง เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นและก็รสชาติแทนน้ำตาลรวมทั้งผงชูรส
รับประทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดการเสี่ยงสำหรับในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
บริหารร่างกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรือขั้นต่ำ 60 นาที/สัปดาห์)
ขณะที่กำลังทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือเปลี่ยนแปลงอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกหัดการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปกำจัดของเสียในเลือด รวมทั้งก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับสารเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบยาสูบให้ลดน้อยลงที่สุด
เลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือบริเวณที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี รอบๆที่มีฝุ่นควัน มลภาวะหนาแน่นถ้าเกิดปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม เพิ่มเติมเป็นแม้มีความคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราอาจทำได้ยาก ลองมองเทคนิคน่ารู้ ที่จะช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ดลับ(ไม่)ลับน่ารู้ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องรับประทาน..เรื่องสำคัญ" อาหารที่เรารับเข้าไปในแต่ละวันก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้เช่นกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดียิ่งขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรารับประทานอะไรลงไป.. และก็นี่คือ 3 ตัวช่วยน่าสนใจที่สามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเห็นได้ตามท้องตลาดทั่วไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แต่ว่าเครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้แอบแฝงไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ และก็ป้องกันตับจากพิษ รวมทั้ง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับในการลดไขมันในผู้ที่มีสภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
ถึงแม้ชื่อจะไม่เคยรู้ใครหลายคน แต่ว่ามันคือสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์เป็น กรดโอลีโนลิกและกรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งส่งผลให้ตับมีร่างกายแข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นยอด โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการทำการวิจัยว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆในร่างกาย อีกทั้งพบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวปริมาณ 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย แล้วก็ยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมจนกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาโดยไม่รู้ตัว เมื่อจำเป็นต้องใช้ชีวิตแล้วก็มีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งจำเป็นที่สามารถป้องกันและก็ลดความเสี่ยงสำหรับในการเป็น โรคตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ โรคยอดนิยมที่คร่าชีวิตคนไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพที่ดีเราทำขึ้นเองได้.. โดยถ้าสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับต้องการขอคำแนะนำผู้ที่มีความชำนาญ ขอรับข้อเสนอแนะปัญหาสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage แล้วก็ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีทีมผู้ที่มีความชำนาญและเภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาคุณในทุกเวลา