• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

8 สิ่งที่ได้ทราบ จากการเป็นผู้รับจ้างมาครึ่งชีวิต

Started by Beer625, April 06, 2023, 06:56:26 AM

Previous topic - Next topic

Beer625

1. เนื่องจากว่าเรามิได้เกิดขึ้นมาเพื่อดำเนินงานอย่ างเดียว

พวกเราไม่ได้ปฏิบัติงานแล้วแฮปปี้ทุกวี่ทุกวัน บ่อยที่เรากลับไปบ้ า นแล้วอย ากจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แต่ว่าถ้าหากเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ดังเช่นว่า วิ่งมาราธอน, ปลูกต้นไม้ หรือแม้กระทั่งต่อ ป.โท

การเปลี่ยนโหมดมาทำเรื่องที่พวกเราชอบจะทำให้ร่าเริงแจ่มใสขึ้น แล้วก็ เพิ่มความมั่นใจ เพราะการเฟลจากที่ดำเนินงานโดยมากมักทำให้เราท้อแท้ใจ และขาดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเองในตัวเอง ส่วนตัวเรามันมีผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน และก็ อีกเพียบเลย


ยกตัวอย่ าง... มีเพื่อนคนนึงชอบตัดเย็บเสื้อผ้ามาก เอาจริงเอาจังขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร ์อาทิตย์ ในช่วงเวลานี้ดำเนินการประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย จวบจนกระทั่งตอนนี้เปิดร้านขายออนไลน์สร้างเป็นอาชีพเสิรมที่มีรายได้มากกว่างานประจำไปละ

2. หัวหน้าก็คนนะ.. รู้ยัง

สำหรับพนักงานประจำตัวจ้อยอย่ างพวกเรา สิ่งที่พวกเราเคารพนับถือที่สุดในที่ทำงานก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้านาย ผู้ที่เป็นหัวหน้างานเองก็มีนิสัยนานับประการ อย่ างตัวเราเคยเจอในขณะที่แบบขึ้นชื่อว่าโ ห ด สุดๆทำงานมาก ไปจนกระทั่งวันๆไม่ทำงานทำการ คอยสั่งคนโน่นทีคนนี้ครั้ง แม้กระนั้นพอได้มองดีๆเราก็พบว่า เฮ้ย หัวหน้าก็คนนี่หว่า

แม้กระนั้นคนๆนี้มันจะมาบ่นว่าขี้คร้านตื่น หรือโดนนายสั่งงานมากมายมิได้ยังไง ทำไมน่ะเหรอ นอกเหนือจากที่จะโดนหัวหน้าของเค้าเองเขม่นแล้ว ลูกน้องก็ยังจะไม่ให้ความยำเกรงด้วย หนำซ้ำบางทีอาจจะพาลกันเสียระบบการปกครองทั้งทีม


ถ้าเกิดให้แนะนำก็อย ากจะพูดว่าพย าย ามรู้เรื่องเค้าดีมากกว่าว่าเค้าก็เป็นมนุษย์อย่ างพวกเราๆนี่แหละ เป็นคนดีบ้ า งคนอัลธพาลบ้ า ง นิสัยก็ต่างกันบ้ า งเป็นเรื่องปกติ อย่ าเห็นว่าเรากับเค้าอยู่คนละขั้วกัน อย ากให้มองดูในมุมที่ว่าถ้าหากเราไม่ทำงานให้เค้า เค้าจะเอางานไหนไปส่งละ จริงๆหัวหน้าเลิกงานก็อย ากกลับบ้ า นไปเจอครอบครัว

ไม่ได้อย ากอยู่ดึกดื่นๆให้คนที่บ้ า นเป็นห่วงหรอก เวลาว่างก็มิได้อย ากดำเนินงาน ก็อย ากท่องเที่ยวเช่นกันนั่นแหละ แต่แค่ออกหน้าชอบบ่นแบบพวกเรามิได้ ตำแหน่งมันค้ำคอ ลองนึกดู

เพียงแค่เราพรีเซนเทชั่นงานกับหัวหน้าก็เกร็งจะแ ย่ นี่เค้าจำเป็นต้องเอางานพวกเราไปเสนอกับหัวหน้าฝ่าย หรือ CEO ลูกน้องคนไหนกันแน่ที่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้าได้เยอะแยะ เค้าก็จะรักคนนั้นเป็นปกติ

3. อย่ าเชื่อมั่นในตัวเองเกินความจำเป็นในโลกออนไลน์

หลายคนมั่นใจว่าโลกโซเชียลเป็นพื้นที่ส่วนตัว จะโ พ ส ต์ อะไรมันก็สิทธิ์ของพวกเรา แต่ว่าทราบรึเปล่าว่า HR ยุคนี้นอกเหนือจากการที่จะมอง resume เราแล้ว ยังดูเ ฟ ส บุ ค ของเราด้วย เพื่อนเราที่เป็น HR ยืนยันมาว่า Social media บอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราได้มากกว่า Resume เป็นสิบเท่า มองเห็นไหมว่าตัวตนบนโลกออนไลน์

ของพวกเรานั้นมีผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อเราเป็นพนักงานประจำสุดกำลัง เรื่องเหล่านี้ยิ่งต้องระวัง อย่ างพวกเราคือไม่แตะต้องเฟสบุ้คเลย หรือถ้าเกิดจะโ พ ส ต์ /แ ช ร์อะไร ก็คิดแล้วว่าถ้าหัวหน้ามาเห็นก็ช่างเถอะ


ถ้าหากอย ากมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆเสนอแนะให้แยกเฟสสถานที่ทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาลำธารณพด้วย ด้วยเหตุว่า ส่วนมากคนในที่ทำงานเค้าก็ขอแอดกันอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่สำหรับทำงาน คนนั้นคนนี้ เบื่องาน หัวหน้าโง่เขลาเบาปัญญา ห้ามโ พ ส ต์ เด็ดขาด โ พ ส ต์ ปุ้บมีคนแคปปั้บแน่ๆ...!! เตือนแล้วนะ

4. จุดโฟกัสที่ลู่วิ่งของพวกเรา พอใจ ใส่ใจ แม้กระนั้น... อย่ าเก็บลู่วิ่งคนอื่นมาอิจฉา

ช่วงปีที่ล่วงเลยมานี้ เพื่อนฝูงพวกเราคนไม่ใช่น้อยเริ่มเรียนต่อ สร้างครอบครัว บางคนเปลี่ยนงานไปงานที่ค่าตอบแทนรายเดือนสูงสุดๆบางคนเริ่มธุรกิจของตัวเอง ครั้งคราวพวกเราเลื่อนมองหน้าเฟสและแอบคิดนะว่า เฮ้ย...!! คนนั้นคนนี้ได้ดิบได้ดี แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ แม้กระนั้นบอกเลยว่าชีวิตพวกเขาก็มิได้ดียิ่งกว่าพวกเราหรอกดีไม่ดีเพื่อนฝูงคนไม่ใช่น้อยบางครั้งอาจจะกำลังอิจฉาริษยาชีวิตเราอยู่ก็ได้

เคยมีคนเดินมาบอกเราว่าแหม ชีวิตดีจังนะ... คือตัวเราเองก็ไม่ได้คิดเลยว่าชีวิตพวกเราดี สิ่งที่พวกเราคัดกรองโ พ ส ต์ ลงโซเชียลนั่นแหละที่ดี จงจดจำไว้ว่าอย่ าเอาจังหวะชีวิตของเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

โฟกัสที่ลู่วิ่งของพวกเรา ทราบว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร รู้ดีว่าที่หมายพวกเราอยากอะไร รู้ดีว่าวันนี้พวกเราทำดีกว่าเมื่อวานแล้วหรือยัง ก็เพียงพอแล้ว แอบมองลู่วิ่งผู้อื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงก ร ะ ตุ้ น ให้พวกเราเป็นจริงเป็นจังกับชีวิตมากเพิ่มขึ้น แต่อย่ าเก็บมาตั้งใจกระทั่งเป็นกังวลเพียงพอ

5. เล่นการเมืองกับทุกคน

ประเดี๋ยวก่อน...!! อย่ าพึ่งจะตระหนกตกใจไป.. เล่นการเมืองกับทุกคนไม่ได้แปลว่า ให้เราไม่ต้องจิรงใจกับคนไหน แต่ว่า... หมายความว่า " พวกเราไม่สนใจข้างใด " อย่ างที่รู้กันว่าในออฟฟิศหลายๆที่

มีการเล่นพวก หรืออยู่ๆก็จะมีเสียงแว่วมาว่า คนนี้เด็กคนนั้น ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตุมาเป็นระยะเวลา 3 ปี พบว่าผู้ที่เล่นการเมือง (มากมายๆ) จำนวนมากไม่มีความสุข ยิ่งพวกที่ตำแหน่งโตๆแต่เล่นเค้าไว้มากนี่ห้ามเสียท่าเลยคะ มีคนรอซ้ำเยอะแยะเลย


" เล่นการเมืองกับทุกคน " ในความหมายนี่คือ... การที่พวกเราดูว่าคนนี้เป็นคนยังไง จะเข้ากับเขาได้อย่ างไร ไม่ได้กล่าวว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือ ฝืนตนเอง แม้กระนั้น... แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความชื่นชอบ

โตมาในสังคมที่แตกต่างกัน การที่เราดูแล้วรู้ดีว่าจะ " อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร " ได้อย่ างไรจะก่อให้พวกเราดีกว่ามากๆเว้นเสียแต่วางตัวง่ายแล้ว เราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางคนที่ดูแล้วผิดจริตกัน

การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย าท ไม่จำเป็นต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่เคยรู้หรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงเราเข้าไปทำงานกับใครกันแน่ ดังนั้น อย่ าสร้างศั ต รู เด็ดขาด ถึงไม่ได้ร่วมงานกันในบริษัทนี้ แต่ว่าในอนาคต อาจได้โครจรมาร่วมงานกันในที่ใหม่ๆก็ได้

6. โดนด่าวันนี้ ดีมากยิ่งกว่าโดนดุตอนอายุ 50

ด้วยความที่อายุยังน้อย ความคาดหวังจากคนรอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย แม้พวกเราจะรู้สึกบีบคั้นสำหรับเพื่อการดำเนินงานสุดๆแม้กระนั้นเชื่อเถอะ เราล้มเหลววันนี้ ดียิ่งกว่าเราไปล้มตอนอายุ 50 พี่ๆที่เขาอยู่จนกระทั่ง 50-60 ก็ผ่านขณะแบบเรามาแล้ว

สิ่งที่อย ากจะแนะนำเป็น.. ใช้เวลานี้ให้คุ้ม เราไม่ได้อายุ 20 กว่าๆตลอดไป อย ากทำอะไรทำ อย าคำกล่าวมอะไรโ ง่ๆก็ให้รีบถาม พรีเซ้นแล้วมันไม่ดีก็พรีเซ้นไปเรื่อยๆฝึกฝนไปเรื่อยๆโดนดุด่าในขณะนี้

เ จ็ บ น้อยกว่าโดนด่าทอตอนอายุ 50 เยอะแยะ แม้จะบกพร่อง ด้วยความยังเด็ก รวมทั้ง อ่อนประสบการณ์ คนส่วนใหญ่พร้อมจะยกโทษเราเสมอ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ล้มเหลวจำนวนมากเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

วามผิดแผกระหว่าง " เพื่อนฝูง " กับ " สหายร่วมงาน " เป็นอย่างไร ที่เค้าพูดว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนย ากก็คงจะจริง ยุคประถม การหาเพื่อนใหม่ไม่ย ากเท่าสมัยมัธยม และการหาเพื่อนพ้องในสมัยมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเท่าไหร่ พวกเราจะหาสหายย ากขึ้นเพียงแค่นั้น และไม่จำต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่แท้หัวใจคนนึงในออฟฟิศมันย ากแค่ไหน


นอกเหนือจากการที่จะมีเรื่องมีราวผลตอบแทน อีกทั้งตำแหน่ง เงินเดือน การวัด เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของมนุษย์เงินเดือนอย่ างเราเป็นไปปฏิบัติงาน ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานชมรมหาสหาย ดังนั้นวันๆเราก็เลยจะพบเพียงแค่เพื่อนพ้องร่วมทีม ซึ่งจำนวนมากแล้วก็เป็นการคุยกันแค่เรื่องงานเพียงแค่นั้น

เราโชคดีที่พบทีมที่ดี คุยได้อีกทั้งเรื่องเฉพาะบุคคลและเรื่องงาน เรียกได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน รวมทั้งเพื่อนร่วมงานในคราวเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจอย่างงี้ พวกเราคิดว่ามันเป็นผลกำไรชีวิต พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดเดียวก็ยังดี ) ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ทีมเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้เผชิญ

เสวนาแลกเปลี่ยนความเซ็งก็ดี ให้พวกเราลองถามตนเองว่า "ถ้าพวกเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย ากนัดคนนี้กินข้าวอยู่ไหม" หากคำตอบคือใช่ ยินดีด้วย คุณพบเพื่อนจริงๆในสถานที่สำหรับทำงานแล้ว

7. หาผู้ที่เป็นมากกว่า " เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน " ให้เจอ แล้วจะอย ากไปทำงานมากขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง " เพื่อนพ้อง " กับ " เพื่อนร่วมงาน " คืออะไร ที่เค้ากล่าวว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนฝูงย ากก็คงจะจริง ยุคประถม การหาเพื่อนพ้องใหม่ไม่ย ากเท่าสมัยมัธยม แล้วก็การหาเพื่อนฝูงในสมัยมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นมากแค่ไหน พวกเราจะหาเพื่อนฝูงย ากขึ้นเท่านั้น

และไม่จะต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนที่จริงหัวใจคนนึงในออฟฟิศมันย ากเพียงใด นอกจากจะมีเรื่องมีราวผลตอบแทน อีกทั้งตำแหน่ง ค่าตอบแทนรายเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของมนุษย์ค่าจ้างรายเดือนอย่ างเราคือไปดำเนินการ มิได้ไปทำกิจกรรมสานสโมสรหาเพื่อนฝูง โดยเหตุนี้วันๆเราจึงจะเจอแค่สหายร่วมทีม ซึ่งส่วนใหญ่รวมทั้งเป็นการคุยกันแค่เรื่องงานแค่นั้น

พวกเราโชคดีที่พบทีมที่ดี คุยได้อีกทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน พูดได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน แล้วก็สหายร่วมงานในครั้งเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจอย่างนี้ เรามีความรู้สึกว่ามันคือผลกำไรชีวิต

พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้พบในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดนึงก็ยังดี ) ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ทีมเดียวกันก็ได้ แค่ได้เผชิญ เสวนาแลกเปลี่ยนความเซ็งก็ดีแล้ว ให้พวกเราลองถามตัวเองว่า "หากพวกเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้รับประทานข้าวอยู่ไหม" ถ้าหากคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนฝูงจริงๆในสถานที่สำหรับทำงานแล้ว

8. ต้องเป็น " ผู้รับจ้างมือโปร "

สรุปสั้นๆตามหัวข้อเลย ถ้าหากอย ากประสบความสำเร็จ แล้วก็ แฮปปี้ ต้องเป็น " ผู้รับจ้างมืออาชีพ " ให้ได้ กล่าวง่ายแต่ทำย ากนะ เนื่องจากผู้รับจ้างมือโปรก็คือผู้ที่ใส่ใจได้ว่า " เราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าจ้างจำนวนหนึ่ง " ซึ่งก็นับได้ว่าบริษัทเค้าต้องการอะไรบางอย่ างจากเราแลกเปลี่ยนกับเงินเดือนนั้นๆ

เราจำต้องรู้ว่าบริษัทจ้างเรามาทำอะไร แล้วก็ ทำมันให้ดียิ่งกว่าที่บริษัทคาดหวังแม้อยากได้ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ หากงานที่ทำอยู่รู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่ควรทรหดอดทนทำไป


น่าจะหางานที่พวกเราทำแล้วพวกเราแฮปปี้และทำเป็นดีเพื่อดึงความสามารถของตนออกมาให้สูงที่สุด นอกเหนือจากที่จะทำให้เราเติบโตในหน่วยงานแล้ว ยังมีผลให้เราปรับปรุงตนเองอยู่ตลอดเวลาและไม่เบื่อด้วย

เมื่อถึงจุดๆหนึ่งเราจะทราบเองว่าควรจะไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ถูกใจให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าคนอื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกกี่ครั้งก็ได้ หากสุดท้ายพวกเราเจอสายอาชีพที่เรารักและอย ากทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากมาย

แล้วก็ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน " เราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง " อย่ าทำงานหนักเกินกว่าค่าแรงงานกระทั่งเหลือเกิน ทุ่มเทได้ แม้กระนั้นจะต้องมีคำตอบที่ดีตามออกมาด้วย ตัวอย่างเช่นได้ปรับเงินเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับพ่อแม่ เครือญาติๆบ้ า ง หันกลับไปมองดูข้างหลังบ้ า งว่าคนที่เป็นบันไดให้พวกเรามายืนจุดนี้ ในเวลานี้เค้าเป็นอย่างไรกันบ้ า งนะ...? อย่ าลืมว่าพ่อแม่อายุเพิ่มขึ้นวันแล้ววันเล่า ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าเกิดเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ทุกข์ยากลำบากหรอก แลกกับความสุขของพ่อแม่
ลูกจ้าง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13457/